สารจากประธานคณะกรรมการ
ความท้าทายจากปัจจัยภายนอก...สร้างเสริมแกร่งจากภายใน
ความท้าทายตลอดปี 2566 บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ เผชิญกับเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนจากปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ล้วนส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานการค้า และระบบเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่เศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวตามผลกระทบจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะภาคเกษตรอุตสาหกรรมที่ต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน อันเนื่องจากสภาพภูมิอากาศ โรคในพืช และความเสียหายจากภัยธรรมชาติ คณะกรรมการบริษัทฯ จึงมุ่งเน้นการวางรากฐานด้านการบริหารห่วงโซ่อุปทาน โดยมีการบริหารทรัพยากรในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การใช้นวัตกรรมผ่านงานวิจัยและพัฒนาร่วมกับหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญภายนอก ออกมาตรการและพิจารณานโยบายการรับมือกับปัญหาสภาพภูมิอากาศ เพื่อช่วยส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ ยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ และพัฒนาสังคมโดยเฉพาะด้านคุณภาพแรงงาน พนักงาน และเกษตรกรให้มีรายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น
ยุคบริหารช่วงการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน ยกระดับธุรกิจจากศักยภาพเดิมที่ยั่งยืน
ปัจจุบันรัฐบาล และกระแสการบริโภคของโลกเป็นช่วงแห่งการเปลี่ยนผ่านพลังงาน หลีกเลี่ยงแหล่งพลังงานที่ได้มาจากการทำลายทรัพยากรธรรมชาติที่กำลังจะหมดไปเรื่อยๆ การมีนวัตกรรมในการทดแทนพลังงานเชื้อเพลิง จึงเป็นเรื่องที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการผลักดันการพัฒนานวัตกรรมผ่านงานวิจัย และพัฒนา เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เดิมให้มีมูลค่าสูง และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตลาดทั่วโลกให้ความสำคัญกับประเด็นด้านความยั่งยืน ซึ่งฝ่ายจัดการได้กำหนดเป็นเป้าหมาย และแผนยุทธศาตร์ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผ่านการร่วมกับหน่วยงานวิจัยภาคีต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในระยะการปลี่ยนผ่านพลังงาน ขับเคลื่อนไปสู่ธุรกิจกลุ่มเกษตรอุตสาหกรรมฐานชีวภาพที่แปรรูปจากวัตถุดิบทางการเกษตรจากเกษตรกร นอกจากการรองรับของธุรกิจพลังงาน ในกลุ่มอุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลังมีแผนยกระดับให้ผลิตภัณฑ์สูงเพิ่มมากขึ้นตอบโจทย์ผู้บริโภค จากแป้งมันสำปะหลังที่เป็นเพียงส่วนผสมในอาหาร (Food Ingredients) ให้มีคุณสมบัติที่ดีสามารถเป็นอาหารแห่งอนาคตท (Functional Ingredients)
กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืน
จากความท้าทายจากปัจจัยภายนอกที่บริษัทฯ ต้องเผชิญ คณะกรรมการบริษัท ได้ตระหนัก และให้ความสำคัญต่อวิกฤตการณ์ดังกล่าว และไม่นิ่งนอนใจที่จะแสวงหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อมาต่อยอดทางธุรกิจ รวมทั้งยังคงมีนโยบายด้านการจัดการความยั่งยืน ภายใต้กรอบแนวคิดการสร้างความสมดุลระหว่าง 3 ปัจจัย ได้แก่ การทำให้ธุรกิจเติบโตมีกำไร (Profit) การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม (Planet) และ การเกื้อกูลชุมชนสังคมรอบข้าง และพนักงานในองค์กร (People) ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับการดำเนินธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บริษัทฯ ได้วางเป้าหมายการมีส่วนร่วมในการสร้างสภาพภูมิอากาศที่ยั่งยืน ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งคณะกรรมการบริษัทฯ ได้กำหนดให้มีการทบทวนนโยบาย ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ เริ่มต้นจากการดำเนินการตามกระบวนการภายใน การเข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพ ตลอดจนการสนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็นและเกี่ยวข้อง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนี่งในการจัดการสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในรูปแบบการสร้างคุณค่าร่วมอย่างยั่งยืน (Sustainable Value Creation) ที่จะสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนบรรลุเป้าหมายที่ดีไปพร้อมกัน โดยในปีนี้ ฝ่ายจัดการยังได้เพิ่มกลยุทธ์ความยั่งยืน UBE CARE เพื่อวางรากฐานเป็นองค์กรที่เอาใจใส่สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมวางรากฐานการกำกับกิจการที่ดีอย่างแท้จริง
มุ่งมั่นการกำกับดูแลกิจการที่ดี...ยกระดับองค์กรสู่มาตรฐานความยั่งยืนสากล
จากความมุ่งมั่นของคณะกรรมการบริษัท คณะผู้บริหาร และพนักงาน ตลอดปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จได้รับการจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellence CG Scoring) จากการเข้ารับการประเมินในปีที่ 2 ในโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน (Corporate Governance Report of Thai Listed Company : CGR) จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พร้อมได้รับการคัดเลือกเป็นหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ A รวมถึงการผ่านการรับรองการต่ออายุสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thai Private Sector Collective Action Against Corruption: CAC) ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 ต้องขอขอบคุณฝ่ายจัดการที่นำหลักเกณฑ์ที่น่าเชื่อถือมาเป็นหลักเกณฑ์ในกระบวนการทำงานของทุกส่วนงาน
การวางรากฐานอนาคต ด้วยการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ท่ามกลางผ่านความท้าทาย
บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นสู่เป้าหมายการเป็นหนึ่งในผู้นำในการขับเคลื่อนเกษตรอุตสาหกรรมด้านการผลิตพลังงานสะอาด และอาหารปลอดภัย ช่วยยกระดับมันสำปะหลังของเกษตรกรไทย ด้วยการลงทุนเทคโนโลยี และงานนวัตกรรมที่ผนึกกำลังร่วมกับหน่วยงานภาคี ให้นวัตกรรมเป็นหัวใจของการขับเคลื่อนธุรกิจ ที่ตอบโจทย์ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียครอบคลุมมิติทางด้านสังคม สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อมที่ต้องปรับตัวเร่งด่วนเนื่องจากปัจจัยที่ควบคุมได้ยากของสภาพภูมิอากาศ มุ่งเป้าองค์กรเป็นองค์กรที่ผลิตสินค้า และจัดการกระบวนการผลิตที่มีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน ซึ่งในปี 2567 ได้มีการทบทวนนโยบาย และมอบหมายให้ฝ่ายจัดการดำเนินการอย่างจริงจังและมีหลักเกณฑ์ในการประเมินที่เป็นที่ยอมรับระดับสากล เพื่อส่งเสริมให้ UBE เป็น UBEYOND (ยู-บี-ยอนด์) เหนือกว่าเป้าหมายที่คาดหวังไว้
นายพลากร สุวรรณรัฐ
ประธานกรรมการ