ประโยชน์ของมันสำปะหลัง

มันสำปะหลังเป็นพืชที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ถึงกับได้รับฉายาว่า “พืชของขวัญ” ของเกษตรกรไทย เนื่องเพราะเป็นพืชที่ปลูกง่ายมีปัญหาในการผลิตน้อย ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากประเทศไนจีเนียและบราซิล แต่ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอันดับหนึ่งของโลกมาอย่างยาวนาน สร้างรายได้เข้าประเทศมากกว่าปีละ 5 หมื่นล้านบาท

         โดยที่ประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่นำมันสําปะหลังมาผลิตเป็นแป้งมากที่สุด และถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตแป้งมันสําปะหลังรายใหญ่ที่สุดของโลก ปัจจุบันมีโรงแป้งทั้งหมด 90 โรงทั่วประเทศ เปิดดำเนินการมามากกว่า 40 ปี ซึ่งแป้งมันสำปะหลังถูกนำไปใช้บริโภค และใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ดังนี้

ใช้เป็นวัตถุดิบของอุตสาหกรรมอาหารในครัวเรือน/Household and Restarant 

         แป้งมันสำปะหลังมีคุณสมบัติทำให้อาหารเหนียว และสร้างลักษณะเงาวาวให้กับเนื้ออาหาร เมื่อผสมน้ำและให้ความร้อนจะเหนียวจนเป็นกาวใส หรืออาจเรียกได้ว่า ขาวใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส เหมาะสมมากเมื่อนำมาใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะในอาหารจะไม่มีกลิ่นหรือรสแปลกปลอม อาทิเช่น

         • อาหาร - เช่น ราดหน้า กระเพาะปลา ผสมแป้งมันสำปะหลังเพื่อให้น้ำมีความเหนียวหนืด 

         • ขนมและของหวาน - เช่น ทับทิมกรอบ เต้าส่วน ผสมเพื่อให้เกิดความเหนียวหนืดและใส ส่วนขนมชั้น ขนมกล้วย และขนมฟักทอง ขนมกุยช่าย จะใช้แป้งมันสำปะหลังผสมกับแป้งชนิดอื่นๆ เพื่อให้เกิดความเหนียวนุ่ม  

เส้นก๋วยเตี๋ยว/Noodle

         ช่วยเพิ่มความเหนียวและยืดหยุ่น ทำให้ไม่ขาดง่าย และทำให้เส้นมีความเงาเพิ่มความน่ารับประทาน

ผลิตภัณฑ์แป้งชุบทอด/ Deep-Fried Flour

         ช่วยเพิ่มความกรอบและควบคุมการพองตัวได้ดี

น้ำส้มสายชู/Vinegar

         เป็นกรดอะซิติกที่ได้จากการหมักสารละลายแอลกอฮอล์ซึ่งทำมาจากมันสำปะหลังโดยใช้ แบคทีเรีย Acetobactor เป็นตัวเปลี่ยนแอลกอฮอล์ให้กลายเป็น กรดอะซิติกแล้วนำกรดที่ได้ไปเจือจางด้วยน้ำให้ได้มาตรฐานที่ มอก. กำหนดจะได้น้ำส้มสายชูซึ่งนำไปใช้ประกอบอาหารในครัวเรือน

ปลาเส้น/Fish Snack

         ใช้แป้งมันสำปะหลังเป็นส่วนประกอบในการขึ้นรูป และทำให้ส่วนประกอบอื่นๆ ผสมผสานเข้าเนื้อปลาได้ดี จะเห็นได้ว่าใช้เป็นส่วนประกอบหลักรองจากเนื้อปลา

อาหารแช่แข็ง/Frozen Food

         ช่วยรักษาความคงตัวแม้ผ่านการแช่แข็งเป็นเวลานาน หลังจากละลายแล้ว ลักษณะยังเหมือนเดิมเกิดความคงตัว อาทิเช่น ติ่มซำแช่แข็ง

ซอสปรุงรสและซุป/Seasoning Sauce and Soup

         แป้งมันสำปะหลังมีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มความข้นหนืดให้กับผลิตภัณฑ์ ในซอสจะมีแป้งดัดแปรพวก แป้งออกซิไดซ์, แป้งพรีเจลลาติไนซ์, แป้งคลอสลิง เป็นตัวเพิ่มความข้นและทำให้เป็นรูปร่าง ส่วนในมายองเนสจะมีแป้งฟอสเฟตโมโสเอสเทอร์เป็นสารอิมัลซิฟายเออร์ ซึ่งช่วยให้น้ำรวมตัวกันเป็นน้ำมันได้

ผงชูรส/ Monosodium glutamate

         ผงชูรสที่ใช้ในการปรุงอาหารมีชื่อทางเคมี คือ โมโนโซเดียมกลูตาเมท ปริมาณการนำแป้งมันสำปะหลังมาใช้ในอุตสาหกรรมผงชูรสสูงถึงประมาณร้อยละ 20 ของปริมาณแป้งมันที่ผลิตได้ทั้งหมด ขั้นตอนการผลิตคือ ใช้แป้ง หรือกากน้ำตาลที่เรียกว่า โมลาส จากโรงงานน้ำตาล หรือทั้งสองอย่างมาผสมกัน หลังจากนั้น ก็เปลี่ยนย่อยแป้งให้เป็นน้ำตาลกลูโคส แล้วหมักและใส่จุลินทรีย์ เพื่อเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสเป็นกรดกลูตามิค หลังจากหมักได้ที่ นำไปทำปฏิกิริยากับโซดาไฟจะได้โมโนโซเดียมกลูตาเมต แล้วทำให้ตกผลึกซึ่งเราเรียกกันว่า ผงชูรส

สาคู/Sago

         สาคูผลิตจากการเอาแป้งมาขึ้นรูป โดยใช้เครื่องจักรในการเขย่าให้จับกันเป็นก้อน พร้อมผ่านการคั่วและอบแป้งจึงทำให้เป็นเม็ดๆ เรียกว่าเม็ดสาคู

 

ไข่มุก/Tapioca Pearl

         ผลิตจากการนำแป้งมันสำปะหลังมาทำให้ชื้น แล้วนำตะแกรงมาล่อน จนกลายเป็นเม็ดสาคูสีดำ แป้งมันสำปะหลังจะมีส่วนช่วยให้ไข่มุกเหนียวหนึบ

ลูกกวาด, ช็อคโกแลต/Confectionary

         สารให้ความหวานพวกกลูโคสหรือฟรักโทสซึ่งผลิตจากแป้งมันสำปะหลังผสมอยู่ ช่วยทำให้มีรสหวานและทำให้กลิ่นรสของผลิตภัณฑ์ดีขึ้น และมีแป้งดัดแปรพวก แป้งไฮดรอกซีเอทธิล แป้งเดกซ์ทริน แป้งแปรรูปประเภท hydroxyl propylated starch เพื่อให้ลูกกวาดมีความแข็ง

ผลไม้กระป๋อง, แยม/Canned fruit, jam

         มีสารให้ความหวานพวกฟรักโทสหรือกลูโคสซึ่งผลิตจากแป้งมันสำปะหลังผสมอยู่ ทำให้ความหวาน สี รส และเนื้อสัมผัสดีขึ้น และกรดซิตริกซึ่งทำจากแป้งมันสำปะหลังเป็นตัวปรับรสชาติและรักษาอาหาร

เครื่องดื่ม/Beverages

         มีสารให้ความหวานพวกกลูโคสและฟรักโทสเป็นส่วนผสมอยู่ ทำให้ผู้บริโภครู้สึกสดชื่นเมื่อดื่มเครื่องดื่มและ ช่วยเพิ่มกลิ่นรสของผลไม้ อีกทั้งมี กรดซิตริกเป็นตัวปรับรสชาติและรักษาอาหาร

ครีมเทียม/Artificial Cremer

         แป้งมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบผลิตสารให้ความหวานพวกมอลโตเดกซ์ตริน ซึ่งเป็นตัวเพิ่มปริมาตรและช่วยในการละลายในครีมเทียม

         มีสารให้ความหวานพวกกลูโคสหรือฟรักโทสซึ่งผลิตจากแป้งมันสำปะหลังผสมอยู่และมีแป้งดัดแปรประเภทกัม(GUM) เป็นตัวทำคงสภาพโดยไม่คืนตัว

         มันสำปะหลัง เมื่อนำไปแปรรูปแล้วสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย จากตัวอย่างที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นเพียงการนำแป้งที่ผลิตจากมันสำปะหลังไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับอาหาร ซึ่งมันสำปะหลังยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในส่วนต่างๆ ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมการผลิตเอทานอล เป็นต้น เพราะฉะนั้นการที่มันสำปะหลังถูกขนานนามว่า “พืชของขวัญ” ก็คงไม่ผิดไกลนัก